มากิเบอร์รี ซูเปอร์ฟรุตผลสีม่วงเข้มพืชพื้นถิ่นของชิลี มี “สารดีดี DEDI” (Delphinidin เดลฟินิดิน) มากที่สุด ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มแอนโทไซยานินที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดเมื่อเทียบกับสารกลุ่มเดียวกันกว่า 300 ชนิด มากิเบอร์รี มีสารดีดีมากกว่าองุ่น 18 เท่า และมากกว่าบลูเบอร์รีถึง 35 เท่า ทั้งยังต้านอนุมูลอิสระได้สูงกว่าโกจิเบอร์รีถึง 9 เท่า และ อะไซเบอร์รีถึง 7เท่า จึงมีการพัฒนานำมาเป็นส่วนผสมร่วมกับซูเปอร์ฟรุตอื่นๆ เป็นเครื่องดื่มซูเปอร์แอนตี้ออกซิแดนท์ที่อุดมด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ มีฤทธิ์ต่อต้านสารพิษอนุมูลอิสระซึ่งมักปนเปื้อนในเลือดและเป็นดั่งสนิมร้ายก่อการอักเสบทำลายอวัยวะต่างๆ รวมถึงตับ และสุขภาพอยู่ทุกวัน ก่อให้เกิดความเสื่อมและเกี่ยวข้องกับโรคเรื้อรังต่างๆ งานวิจัยพบว่าเมื่อดื่มอย่างต่อเนื่องช่วยให้เลือดดี ตับดี เสริมภูมิดี ให้กับร่างกาย

ค่า ORAC ยิ่งสูง ยิ่งมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระได้สูงขึ้น

ค่า ออแรค หรือ ORAC (Oxygen Radical Absorbance Capacity) คือ ค่าที่ได้จากการวัดความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระของอาหารและเครื่องดื่ม ค่า ORAC ที่สูงกว่า แสดงถึงความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระได้มากกว่า จากการตรวจสอบค่า ORAC ที่ Brunswick Lab สหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นห้องปฏิบัติการที่ได้รับความเชื่อถือในระดับโลก มีความเชี่ยวชาญด้านการทดสอบสารต้านอนุมูลอิสระ พบว่า มีค่า ORAC สูงสุดถึง คือ 249,225 umolTE ต่อ ขวด 750 มล. (ไมโครโมลTE หรือ ไมโครโมลโทรล็อกซ์ เป็นหน่วยของประสิทธิภาพการต้านอนุมูลอิสระ) หากเทียบปริมาณ 1ช็อท 25 มล. หรือ 1 ซอง ให้ค่าต่อต้านอนุมูลอิสระ ORAC เทียบเท่า มะนาว 250 ผล หรือ มะเขือเทศ 1.5 กิโลกรัม หรือกล้วย 40ผล หรือ ชาเขียว 6 แก้ว หรือ ไวน์แดง 3 แก้วเลยทีเดียว